วิธีรับเงินหมื่น “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ”

ชื่อใหม่! แจกเงิน 10,000 บาท เฟสแรก

‘เพื่อไทย’ แจงยิบ วิธีรับเงินหมื่น “โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ”

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะรัฐมนตรีเป็นครั้งแรกว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจปี 2567 ผ่านผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและคนพิการ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยจะเริ่มจ่ายเงินได้วันที่ 25 กันยายน นี้ โดยโครงการนี้ผ่านความเห็นชอบจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาแล้ว

โครงการนี้ใช้งบประมาณวงเงินรวม 145,552.40 ล้านบาท โดยใช้แหล่งเงินจาก 2 แหล่งเงิน ได้แก่

1. งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี พ.ศ.2567 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างความเข้มแข็งของระบบเศรษฐกิจ วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท

2.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 งบกลางรายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นวงเงินไม่เกิน 23,552.40 ล้านบาท

ทั้งนี้ วงเงินที่มีการโอนเงินจะครอบคลุมประชาชนที่เป็นกลุ่มเปราะบาง รวมผู้ที่ได้รับเงิน 14.5 ล้านคน แบ่งเป็นกลุ่มผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ประมาณ 12.4 ล้านราย และผู้พิการอีกประมาณ 2.1 ล้านราย มีรายละเอียดดังนี้

1. ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

1.1 โอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน (ไม่มีการโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับหมายเลขโทรศัพท์)

1.2 ยกเว้นกรณีผู้ป่วยติดเตียงหรือผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป ที่ไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้ จะโอนเงินผ่านบัญชีเงินฝากธนาคารตามที่ได้แจ้งความประสงค์ใน “หนังสือให้ความยินยอมโอนเงินสวัสดิการเข้าบัญชีร่วมกับบุคคลอื่น หรือบุคคลอื่น” ซึ่งได้แจ้งไว้ ณ สำนักงานคลังจังหวัดหรือกรมบัญชีกลาง ตามแนวทางการจ่ายเงินของกองทุนประชาชรัฐเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม

2. คนพิการ

2.1 โอนเงินตามช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการ ซึ่งได้รับข้อมูลจาก อปท. กทม. และเมืองพัทยา (กรณีเคยได้รับเงินเบี้ยความพิการจาก อปท. เป็นเงินสด จะได้รับเงิน 10,000 บาท เป็นเงินสดผ่าน อปท. ดังเดิม)

2.2 กรณีคนพิการที่ปรากฏข้อมูลในฐานข้อมูลของ พก. แต่ไม่ปรากฏข้อมูลช่องทางการรับเงินเบี้ยความพิการ ตามข้อ 2.1 จะโอนเงินผ่านบัญชีพร้อมเพย์ที่ผูกกับเลขประจำตัวประชาชน ยกเว้น กรณีคนพิการติดเตียงหรือไม่สามารถผูกพร้อมเพย์ได้ ให้ลงทะเบียนและยื่นคําขอรับเงินเบี้ยความพิการต่อ อปท. ที่ตนมีภูมิลำเนา ณ ที่ทำการ อปท. หรือสถานที่ที่ อปท. กำหนด ภายในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 ก่อนการโอนเงิน เบี้ยความพิการ เพื่อที่กรมบัญชีกลางจะใช้บัญชีเงินฝากธนาคารที่รับเงินเบี้ยความพิการดังกล่าว สำหรับการโอนเงินโครงการให้ต่อไป

โครงการนี้มีประโยชน์คือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2567 จ่ายเงินให้กับกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเงินในระบบเศรษฐกิจ ส่งผลให้ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัวได้ 0.35% เมื่อเทียบกับกรณีไม่มีโครงการ

ภายหลังจากที่ ครม.เห็นชอบแล้ว กรมบัญชีกลางจะดำเนินจ่ายเงินให้กับประชาชนที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วันที่ 25 กันยายนเป็นต้นไป คนละ 10,000 บาท ด้วยการโอนเงินให้ครั้งเดียว โดยโอนเงินเข้าบัญชีที่เชื่อมกับเลขบัตรประชาชน ตามลำดับได้เงิน และสามารถกดเงินสดออกได้ทันทีตามลำดับดังนี้

วันที่ 25 กันยายน 2567

กรมบัญชีกลาง โอนเข้าบัญชีผู้พิการ 2.6 ล้านคน

โอนเข้าบัญชี ผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 0

วันที่ 26 กันยายน 2567

กรมบัญชีกลาง โอนเข้าบัญชีผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 1, 2 ,3

วันที่ 27 กันยายน 2567

กรมบัญชีกลาง โอนเข้าบัญชีผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 4, 5, 6, 7

วันที่ 30 กันยายน 2567

กรมบัญชีกลาง โอนเข้าบัญชีผู้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐ ที่เลขบัตรประชาชนหลักสุดท้ายเป็นเลข 8, 9

ในกรณีที่กรมบัญชีกลางจ่ายเงินให้ตามบัญชีพร้อมเพย์แล้ว แต่ไม่สามารถจ่ายเงินได้ เนื่องจากไม่ได้มีการผูกบัญชีพร้อมเพย์ กรมบัญชีกลางจะโอนเงินภายหลังหรือจ่ายเงินซ้ำ (Retry) อีก 3 ครั้งได้แก่

ครั้งที่ 1 ในวันที่ 22 ต.ค.2567

ครั้งที่ 2 ในวันที่ 22 พ.ย.2567

และ ครั้งที่ 3 ในวันที่ 22 ธ.ค.2567

ทั้งนี้ หากโอนไปครบทั้ง 3 ครั้งแล้วไม่สำเร็จรัฐจะหยุดการจ่ายเงินซ้ำ และถือว่ากลุ่มเป้าหมายไม่ประสงค์จะรับเงินในโครงการ

นอกจากนี้ ขอแจ้งประชาสัมพันธ์ว่า ผู้ที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่ยังไม่ได้ไปผูกกับพร้อมเพย์กับเลขบัตรประชาชน ขอให้ไปผูกกับพร้อมเพย์และเลขบัตรประชาชนก่อนถึงวันที่ 25 กันยายนนี้ เพื่อจะได้รับเงินตรงรอบที่กำหนด เพราะหากโอนเงินเข้าไม่สำเร็จ จะต้องรอโอนเงินในรอบเดือนถัดไป ส่วนกลุ่มคนพิการ กลุ่มนี้ไม่ต้องผูกพร้อมเพย์เพราะเงินจะเข้าบัญชีเดียวกันกับเบี้ยคนพิการปกติ เว้นแต่คนพิการที่ไม่ได้รับเงินผ่านช่องทางรับเบี้ยคนพิการ ก็ให้ใช้พร้อมเพย์ผูกเลขบัตรประชาชน